หลังจากที่ชาวบ้านทำบุญตักบาตรเสร็จ ก็พากันมารวมตัวที่วัดถ้ำผาดำสันติธรรมตามที่นัดหมาย แล้วก็แบ่งหน้าที่กันคนละไม้ คนละมือ อย่างมุ่งมั่น ทำงานไปด้วย คุยกันไปด้วย ตามประสาเพื่อนบ้านที่พบเห็นกันเป็นประจำ เหนื่อยก็เปลี่ยนมือกันไปพัก หายเหนื่อยก็เปลี่ยนมือมาทำงาน ต่างคนต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งมองดูแล้วทำให้เรารู้สึกภูมิใจและประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวบ้านตอนเป็นเด็ก เพราะสิ่งตอบแทนที่ทุกคนมาทำในวันนี้ไม่ใช่เงิน แต่มันคือผลบุญที่ต้องการให้ตัวเองและญาติพี่น้องมีความสุข ซึ่งความสุขที่ว่านี้คือ “ ความสุขทางใจ ” เมื่อศาลาสร้างเสร็จก็จะเป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนในการมาทำบุญ ทำทาน ฟังเทศนา บำเพ็ญเพียรฝึกสมาธิ เป็นต้น ซึ่งเป็นหนทางดับทุกข์ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้มาแล้ว
ช่วงบ่ายคณะครูโรงเรียนบ้านห้วยตาดได้พานักเรียนนำผ้าป่ามาถวาย เพื่อเป็นทุนในการสร้างศาลาต่อไป หลังจากถวายผ้าป่าเสร็จนักเรียนก็ได้แบ่งกลุ่มกันบำเพ็ญประโยชน์ให้กับวัด บ้างกลุ่มพากันไปล้างห้องน้ำให้วัด บางกลุ่มไปเก็บขยะรอบวัด บางกลุ่มไปช่วยชาวบ้านเทคานศาลา ซึ่งเด็กๆ ทุกคนต่างช่วยชาวบ้านอย่างขยันขันแข็ง รวมทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานมองดูแล้วรู้สึกอบอุ่นจริงๆ ก็อยากเก็บและรักษาบรรยากาศแบบนี้ไว้อย่างนี้ตลอดไป ขอขอบคุณคณะครูทุกท่านที่ได้พานักเรียนมาเรียนรู้ภายนอกโรงเรียน ปัจจุบันเด็กกลุ่มนี้ก็กลายเป็นอนาคตของหมู่บ้านไปแล้ว และจะกลายเป็นอนาคตของชาติต่อไปในอนาคต สักวันหนึ่ง...เชื่อว่าเด็กเหล่านี้จะได้บอกเล่าให้ลูก ให้หลานฟังอย่างภาคภูมิใจว่า “ ศาลาที่กำลังนั่งปฏิบัติธรรมอยู่นี้ สร้างด้วยมือของพวกเขาเอง ” เพื่อให้พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังได้รู้สึกถึงคุณค่า และรู้จักหวงแหนในสิ่งที่พุทธศาสนิกชนรุ่นก่อนได้สร้างไว้
สำหรับงบประมาณในการสร้างศาลาในครั้งนี้ มาจากปัจจัยของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาจากที่ต่างๆ ซึ่งยังไม่เพียงพอกับงบประมาณที่ประเมินไว้ โดยปัจจุบันสิ่งที่ทางวัดจำเป็นต้องใช้และขาดแคลนมากคือ วัสดุก่อสร้างต่างๆ ปูน หิน ทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ถังตักปูน พลั่วตักหินตัก
ทราย รถเข็นปูน เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น